#ปุ๋ยคอก หรือ #ปุ๋ยมูลสัตว์ คือ มูลสัตว์จากสัตว์ชนิดต่างๆ ที่ผ่านการหมักหรือย่อยสลายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อการเกษตร เช่นขี้หมู ขี้วัว ขี้ไก่
"ปุ๋ยคอก"เป็นอาหารที่สัตว์กินเข้าไปแล้วไม่สามารถย่อยหรือนำไปใช้ประโยชน์ได้หมด จึงเหลือเป็นกากที่ขับถ่ายออกมา โดยเศษอาหารเหล่านี้ได้ผ่านกระบวนการย่อยสลายไปบางส่วนแล้วในทางเดินอาหาร ดังนั้นในส่วนที่เป็นมูลสัตว์จึงยังอุดมไปด้วยธาตุอาหารชนิดต่างๆ
รวมทั้งสารอินทรีย์ที่ละลายน้ำได้หลายชนิด ซึ่งเมื่อรวมกันเข้าก็จะมีองค์ประกอบที่สามารถใช้เป็นธาตุอาหารที่สมบูรณ์ของพืชได้ ส่วนมูลสัตว์แต่ละชนิดจะมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองและจุลธาตุต่างกัน ขึ้นอยู่กับอาหารที่สัตว์ชนิดนั้นๆกินเข้าไป
บวกกับปัจจัยอื่นๆด้วย ได้แก่
- ระบบการย่อยอาหารของสัตว์
- วิธีการให้อาหาร
- วิธีการเลี้ยง
- อายุของสัตว์
- การเก็บรักษา
- รวมถึงแหล่งที่อยู่ด้วย
ทั้งนี้ "ปุ๋ยคอก" ที่สดใหม่จะมีปริมาณธาตุอาหาร สูงกว่าปุ๋ยคอกที่เก็บไว้นาน เนื่องจากปุ๋ยชนิดนี้สูญเสียธาตุอาหารออกไปในรูปแบบของก๊าซได้ง่าย
ประโยชน์ของ #ปุ๋ยคอก มีดังนี้
บำรุงพืชให้เจริญเติบโตได้ดี
ในปุ๋ยคอกมีธาตุไนโตรเจน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นธาตุอาหารสำคัญของพืชพันธุ์ทุกชนิดจึงช่วยบำรุงพืชให้เจริญเติบโตได้ดี
ปรับสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์
นอกจากเป็นธาตุอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชแล้วธาตุไนโตรเจน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ในปุ๋ยคอกยังช่วยปรับสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์สามารถย่อยสลาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของดิน ช่วยให้ดินมีความร่วนซุย ระบายน้ำและระบายอากาศได้ดีอีกด้วย
ให้ธาตุอาหารยาวนานกว่าปุ๋ยชนิดอื่น
เนื่องจากปุ๋ยคอกจะค่อยๆย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ทำให้ธาตุอาหารต่างๆ ค่อยๆย่อยสลายตามไปด้วย จึงให้ธาตุอาหารแก่พืชได้ยาวนานกว่าปุ๋ยชนิดอื่นๆ
ใช้บำรุงสระหรือบ่อเลี้ยงปลา เพื่อการเกษตร
เกษตรกรส่วนใหญ่ มักใช้ปุ๋ยคอกในการบำรุงสระ บ่อเลี้ยงปลา เนื่องจากมีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามิน B1 B7 และ B12 ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดสาหร่ายและแพลงก์ตอน ทำให้ปลามีอาหารการกินอุดสมบูรณ์ ปกติแล้วมักใช้ขี้หมูเป็นหลัก
มาดูกันว่าแหล่งที่มาจากสัตว์แต่ละชนิดมีปริมาณธาตุอาหารมากน้อยแตกต่างกันมากแค่ไหน ?
ย้อนดูธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง จุลธาตุ ได้ที่ : https://www.facebook.com/agriculturemag/posts/642583271231896
#เกษตรกรก้าวหน้า #infoเกษตร #ปุ๋ยคอก #ปุ๋ยมูลสัตว์ #NPK